10 นาที/10 ปี

แหล่งความรู้เกี่ยวกับข้อมูลที่เป็นภาษาไทยของ xajax ไม่ค่อยมีใครจัดทำมากเท่าไร่มีแต่ post ทิ้งไว้ทั่วไปตาม webboard ต่างๆ ถ้าจะเรียนรู้กันจริงๆ ก็ http://xajaxproject.org/docs/xajax-in-10-minutes.php แต่อย่างที่บอก 10 ปีคือเหมือนกับว่าใช้เวลานานไป 10 ปีหรือเปล่าไม่แน่ใจ แต่ที่แน่ๆ ถ้าเราศึกษาหรือเขียนโปรแกรมมาแล้ว 10 ปีล่ะพอได้ที่จะเรียนรู้ได้ภายใน 10 นาทีอย่างที่มันบอก (หมายถึงศึกษาเองน่ะ) เอาล่ะไม่เป็นไรครับคุ้ม ขอให้ได้อย่างที่ต้องการเถอะคิดว่าคุ้มค่าสำหรับการลงทุนที่จะเรียนรู้เพราะว่า xajax สามารถช่วยให้โปรแกรม / web ของท่านข้ามขีดความสามารถหรือข้อจำกัดเดิมๆ ของ web ไปกันเลยครับ

ขั้นตอนการติดตั้ง xajax

ความต้องการของระบบคือ ที่จะรองรับการทำงานของ xajax
Apache Web Server or IIS for Windows XP/2003 Server
PHP 4.3.x or PHP 5.x
Minimum supported browsers: Internet Explorer 5.5, Firefox 1.0 ,or equivalent Gecko-based browser, Safari 1.3, Opera 8.5 . Older versions only work with GET requests

Download มาก่อนครับ

จัดวาง Folder ของ xajax ลงในตำแหน่งเดียวกับ โปรแกรมที่เราใช้งานปัจจุบัน

เรียนรู้ xajax ภายใน 10 นาที (ต้นฉบับ)

xajax ได้ออกแบบมาให้ง่ายต่อการปรับปรุงโปรแกรม บน web ของท่านให้ดูดีเหมือนโปรแกรมใหม่ของท่านเลยทีเดียว โดยเพียงแต่ท่านทำตามขั้นตอน 7 ขั้นตอนดังต่อไปนี้

// เขียน Script xajax ที่บนสุดของ Code Program

1. เรียกใช้ xajax class library

require_once("xajax.inc.php");
เรียกไฟล์ xajax.inc.php ตามตำแหน่งที่มันอยู่ด้วยน่ะครับ


2. กำหนดตัวแปรสำหรับ xajax object

$xajax = new xajax();

3. ลงทะเบียนฟังก์ชั่นที่ต้องการจะเรียกใช้งานในโปรแกรมของเรา

$xajax->registerFunction("myFunction");
myFunction คือ ชื่อฟังก์ชั่นที่เรากำหนด

4. การเขียนฟังก์ชั่นที่กำหนดขึ้นมา

ตัวอย่าง

function myFunction($arg)
{
// do some stuff based on $arg like query data from a database and
// put it into a variable like $newContent
// Instantiate the xajaxResponse object

//กำหนดตัวแปร Object xajax
$objResponse = new xajaxResponse

//เรียกใช้ method ต่างๆ ที่อยู่ใน Object xajax =>objResponse ในที่นี้คือ addAssign
//จากตัวอย่างเป็นการกำหนดค่า object ที่อยู่ให้ html form
//โดยกำหนดค่าให้ innerHTML ของ id="SomeElementId" ให้มีค่าใหม่คือ $newContent
$objResponse->addAssign("SomeElementId","innerHTML", $newContent);

//คืนค่า Object xajax
return $objResponse();
}


5.ก่อนที่จะปิด Script xajax ต้องส่งคืนค่าของตัวแปร Object ที่ได้นำไปประมวลผลใน xajax ไปแสดงที่ผลลัพธ์

$xajax->processRequests();


6.กำหนดให้ xajax ทำการสร้าง Code Java Scipt สำหรับช่วยในการประมวลผลของตัวมันเองที่ <>< / head >

$xajax->printJavascript(); ?>


7.การเรียกใช้งาน xajax Function ที่เราได้สร้างขึ้นมา



  • Call the function from a JavaScript event or function in your application (you must change SomeArgument into a real variable, a string, etc.--some argument is required):
    <div id="SomeElementId"></div>

    <    form action="get"    >

    <    input type="button" value="Insert" onclick="xajax_myFunction(SomeArgument);"     />

    </    form>

    • ความคิดเห็น

    แสดงความคิดเห็น

    โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

    ไม่เห็นมีใครใช้ xajax กันเลย

    ผมคนหนึ่งล่ะ ที่ฝันเป็นอย่างยิ่งที่จะให้โปรแกรมระบบสารสนเทศที่เราใช้หรือพัฒนากันทั้งหลายน่ะ ให้ใช้งานกันได้ง่าย แต่ติดที่รูปแบบและวิธีการใช้งานที่จะกำหนดให้ใช้หรือพัฒนากันได้ง่ายน่ะสิครับ ผมพยายามหาอะไรๆ มาปรับกับการเขียนโปรแกรมบน Web ซึ่งก็ต้องบอกตามตรงว่า กว่าจะปรับทัศนะคติให้ได้ก็ตั้งนานกว่าจะได้ มันเหมือนกับว่าเราเล่นฟุตบอลเป็นกองหลัง วันดีคืนดีก็ต้องไปเล่นเป็นกองหน้า Sense มันคนล่ะอย่างกันจริง ไอ้ที่อยากจะให้มันทำงานได้ดังใจเหมือนที่เขียนบน Desktop App ก็ไม่ได้ แต่ทำไงได้ล่ะครับเดี๋ยวนี้อะไรมัน ก็ Webbase App กันไปหมดจะให้มาย่ำกับที่โดยที่ไม่เปลี่ยนแปลงตามเทคโนโลยีมีหวังที่ต้องตกกระป๋องกันสิครับ ต้องเรียนรู้กันไป วันหนึ่งได้เรียนรู้กับคำว่า Ajax เขาก็บอกกันว่าเนี่ยะแหละจะเป็นสิ่งที่ทำให้ Webbase App ของเราน่ะมันมีความสามารถมายิ่งขึ้น ก็ใช้อยู่กับเขาเหมือนกันกับ ยอมรับว่าบางครั้งการที่เราเรียนรู้อะไรใหม่เราเพียงต้องการที่จะให้มันใช้งานได้กับระบบงานที่เราต้องการ มากกว่าที่จะเรียนรู้ให้มันได้ลึกจริงๆ ก็อาศัยว่าให้เจอกรณีศึกษาใหม่ก็ค่อยไปศึกษาค้นคว้ากันอีกที เอาอะไรมากล่ะครับบางอย่าง...
    อ่านเพิ่มเติม